My Love Little Boy - My Love Little Boy นิยาย My Love Little Boy : Dek-D.com - Writer

    My Love Little Boy

    ผิดรึไงนะ ที่ฉัน จะแอบรักใครซักคน มันผิดด้วยหรือไงเล่าที่ฉันแค่อยากมองเขาอยู่ห่างๆ แล้วมันผิดหรือไงกันที่ฉันขอแค่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจน่ะ (แล้วโลกนี้จะมีเรื่องราวของคนแอบรักไว้ทำไม...)

    ผู้เข้าชมรวม

    331

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    331

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 เม.ย. 49 / 09:54 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                     ++++++++ เฮอะ เฮอะ พยายามเอามาลงใหม่ เปลี่ยน Font ก็แล้ว เรื่องมันก็ยังลงซ้ำอยู่ดีอ่ะ  ครั้งนี้เลยลองพยายามอีกครั้ง  ไม่แน่ใจอ่ะนะว่าจะสำเร้จไหมอ่ะ  หง่าาาาา  เราก็เลยถือโอกาสมาเปลี่ยนชื่อชื่อตัวละครนิดหน่อยด้วย  ฮุ ฮุ ++++++++++

      โรงเรียน สถานที่ที่เปรียบได้กับบ้านหลังที่สองของนักเรียนทุกคนก็ว่าได้  สถานที่ที่ไม่ได้ให้เพียงความรู้ทางวิชาการเพียงเท่านั้น แต่ก็ให้มิตรภาพแก่พวกเขาด้วย มิตรภาพที่จะคอยค้ำจุน แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะก้าวเท้าออกจากประตูรั้วโรงเรียนนี้ไปแล้วก็ตาม มิตรภาพที่จะติดตามตัวพวกเขาไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ต่อไป

      บรรยากาศตอนพักกลางวันที่เงียบสงบ อาจเรียกได้ว่าเงียบเกินไปเสียด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ความจริงควรจะเห็นนักเรียนภาพของนักเรียนชายที่จะเล่นฟุตบอลจนเหงื่อโทรมกาย กับกลายเป็นภาพของนักเรียนที่จับกลุ่มอ่านหนังสือกันอย่างเคร่งเครียด บ้างก็วิ่งทำรายงานกันให้วุ่น เพราะนี่ใกล้ถึงเวลาสอบปลายภาค ช่วงเวลาสำคัญที่จะชี้ชะตาได้ว่าเกรดของพวกเขาก็ออกมาสวยน่าชื่นชม หรือน่าเศร้าใจกันแน่  

      และนักเรียนกลุ่มที่ต้องน่าหนักใจที่สุดสำหรับการสอบปลายภาคนี้ก็เห็นจะเป็นนักเรียนชั้นม.6 พี่ใหญ่ของโรงเรียน นอกจากคะแนนจะมีผลต่อเกรดที่จะออกมาสวยหรูหรือไม่แล้ว  มันยังเป็นตัวช่วยตัวสำคัญอีกตัวด้วยสำหรับพวกเขาให้การที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นเด็กม.6 นั่งจับกลุ่มติวหนังสือกันอย่างขะมักเขม้น

      แต่ยังมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่ยังไม่คงไม่สนใจชาวบ้านว่าเขาเคร่งเครียดกันขนาดไหน พวกเธอยังคงเลือกที่จะนั่งเม้าท์ชาวบ้านชาวช่องกันอย่างมันปาก โดยไม่อนาทรร้อนใจเลยซักนิดว่าพวกเธอก็เป็นหนึ่งในนักเรียนเตรียมสอบด้วยเหมือนกัน

      “เฮ้ย!!!!! ไอ้ปั้น ทาง 9 นาฬิกาเว้ย!!!!” เฉาก๊วย สาวน้อยผิวแทน(สีเดียวกับชื่อนั้นเหละ)โผลงขึ้นมากลางวงหยุดเสียงสนทนาทั้งมวลเรียกให้กะหล่ำ เด็ก 
      สาวอีกคนที่นั่งก้มหน้างุดอ่านหนังสือ สะดุ้งขึ้นมาเหลียวซ้ายแลขวาเลิ้กลั่ก

      “ไหน? อะไร?  ทางไหน ทางไหนว่ะ” กำหล่ำยังคงหันซ้ายหันขวาหา
      เป้าหมายอย่างที่พีว่า

      ป้าบ!!!!!!!! เฉาก๊วยตบหัวกะหล่ำป้าบใหญ่อย่างเหลืออด
               “9 นาฬิกาบ้านแกเรอะ
      !! หันซะรอบทิศเชียวแก น้องเขาไปแล้วเว้ย!!!!!
      เฉาก๊วยอนาถหน้าเอ๋อๆของกะหล่ำเต็มทน

      “เอ้า!!!! แล้วชั้นจะรู้กะแกไหมล่ะว่า ไอ้ 9 นาฬิกาน่ะ มันทางไหนล่ะ”
      กะหล่ำเถียงเฉาก๊วยอย่างไม่ยอมแพ้ แม้มือยังคงคลำหัวตัวเองป้อยๆ

      “ฮึ้ย!! แกก็ยกนาฬิกาตัวเองขึ้นมาแล้วดูดิว่าเลขเก้ามันอยู่ทิศไหน แกก็
      หันไปทางทิศนั้นแหละ” เฮาก๊วยไม่พูดเปล่า สองมือสีแทนของคุณเธอจับมือ    
      กะหล่ำพร้อมกับกดหัวกะหล่ำให้ดูนาฬิกาตามไปด้วย

      “โธ่!!!! แค่เนี้ย?  ก็ฉันไม่รุนิ คราวหลังแกบอกชั้นมาเลยไม่ได้ริไงฮะว่า
      น้องเค้าอยู่ทางไหน จะได้ไม่เสียเวลา  เห็นม่ะ น้องเขาเดินไปโน้นแล้วแก”
      กะหล่ำยังไม่วายบ่นใสพี แถมยังทำหน้าเสียดายซะเต็มประดาประกอบ

      “เอออออออ   ขอโทษค่ะคุณหญิง ต่อไปอิฉันจะบอกคุณนายกะหล่ำเลย
      เจ้าค่ะ  ว่า..น้องสุดที่รักเค้าอยู่ทางไหน” เฉาก๊วยว่าพร้อมกับผลักหัวกะหล่ำเล่น
      อีกหนึ่งทีเป็นของแถม เรียกเสียงหัวเราะชอบใจของเพื่อนทั่งกลุ่มที่นั่งฟังบท          
      สนทนานี่มานานแล้ว

      กะหล่ำ หรือ นางสาวปั้นดาว เจริญไมตรี  หญิงสาวที่ดูภายนอกดูบอบ
      บาง เรียบร้อย อ่อนหวานน่ารัก  แต่คุณเธอกลับประกาศกร้าวกับเพื่อนๆของเธอ
      ว่าความใฝ่ฝันของเธอคือการเป็นวิศวกร ทั้งที่คนอื่นๆ เห็นพ้องต้องกันว่า..
      คุณเธอเหมาะกับพยาบาลมากกว่า แต่เฉาก๊วย หรือ พีระพันธ์ เพื่อนสนิทตั้งแต่
      ม.ต้นของกะหล่ำกลับมั่นใจว่าคนอย่างกะหล่ำต้องเป็นวิศวกรได้อย่างที่ปั่นฝัน
      แน่นอน เพราะภายใต้ใบหน้าอันอ่อนหวานและท่าทางที่ดูเรียบร้อยบอบบาง
      น่าถนุถนอนของกะหล่ำ แฝงได้ด้วยความกล้าบ้าบิ่น ที่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้
      และสัมผัสได้  แต่ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้สาวกล้าอย่างปั้นต้องจนมุมได้

      “เฮ้อออออออ  ไอ้กะหล่ำ ทีเรื่องอื่นล่ะทำเป็นกล้า  แต่กะอีกแค่บอกชอบ
      น้องเค้าเนี้ยทำอายเชียวแก…..”

      เฉาก๊วยคิดอย่างระอา เมื่อเห็นกะหล่ำทำตาละห้อยมองตามน้องไอคิวไป

      ไอคิว หรือ คณิต  เศษฐาไพบูลย์ รุ่นน้องของทั้งปั้นและพีอยู่สองปี คณิต
      หรือไอคิว เป็นนักเรียนดีเด่นของสายชั้นม. 4 นอกจากเรียนดีแล้ว ยังเก่งกีฬา
      อีกด้วย  เพราะเป็นดาวเด่นของสายชั้น พร้อมกับหน้าตาอันน่ารักสดใสเลยเป็นขวัญใจของทั้งพวกพี่ ๆ น้องๆ กันถ้วนหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีนางสาวปั้นดาว
      ด้วยอีกคน 

                และเพราะนางสาวปั้นดาว เป็นคนที่ขี้อาย(กับเรื่องน้องคิวเรื่องเดียว เรื่องอื่นไม่ยักกะอายเป็น) ความสัมพันธ์ของน้องกับกะหล่ำจึงได้เป็นแค่ พี่น้องที่อยู่ร่วมสถาบันเดียวกัน  ถึงจะมีบ้างที่กะหล่ำกับไอคิวจะคุยกัน แต่ก็แค่คุยผ่านเอ็มเท่านั้น แต่พอมาอยู่ที่โรงเรียน  กะหล่ำจึงเป็นเพียงแค่ผู้ที่แอบมองเขาอยู่ฝ่ายเดียว

      “หง่าาาาาา น้องเค้าเลี้ยวเข้าห้องไปแย้วอ่ะแก”  กะหล่ำบ่งหงุงหงิงเมื่อ
      ไอคิวเดินไปจนลับสายตาแล้ว

      “เออ เออ รู้แล้วหน่าาา  พรุ่งนี้แกก็ค่อยเหล่น้องเค้าใหม่ล่ะกัน” เฉาก๊วย
      ลากคอกะหล่ำให้หันมาทางเธอ  “อ๊ะ
      !! แต่ถ้าแกไม่อยากแค่แอบเหล่น้องเค้า
      เหมือนพวกถ้ำมองล่ะก็  แกลองไปสารภาพรักกับเขาดิ  ไม่แน่น้าาาาา แกอาจจะไม่ต้องแอบมองเขาอยู่อย่างนี้ก็ได้” เฉาก๊วยหลิ่วตาให้กะหล่ำอย่างล้อเลียน ในขณะ
      ที่กะหล่ำได้แต่อ้ำอึ้งหน้าแดง น่ารักสมหน้าตาของตัวเอง

      “แกจะบ้า!! เหรอ ชั้นเป็นผู้หญิงนะ!! จะให้ไปบอกรักผู้ชายก่อนได้ไง
      แถมชั้นยังแก่กว่าน้องเค้าตั้งสองปีนะแก  บ้าาาา ไม่เอาอ่ะ” กะหล่ำพูดแกเก้อ
      แถมเชิดหน้าไปทางอื่นเสียอีก

      “เฮ้ออออออไอ้กะหล่ำเอ้ยยยย ถ้าแกไม่บอกแล้วน้องเค้าจะตรัสรู้เองรึไง 
      อีกอย่าง…นี่แกจะจบแล้วนะ แกจะทิ้งความรู้สึกดีๆที่แกมีโดยไม่ทำอะไรเลย
      รึไงฮ่ะ”

      “อย่างน้อยแกก็ได้ทำตามหัวใจแกต้องการซักครั้งนะเว้ย” เฉาก๊วยพูดทิ้งท้าย ก่อนที่จะเดินไปเข้าเรียนห้องของตัวเอง ปล่อยให้ปั้นต้องนั่งคิดทบทวนสิ่ง
      ที่เฉาก๊วยพูดเมื่อครู่

       

      “ทำตามหัวใจงั้นเหรอ ?…… เฮ้ออออออ มันจะดีเร้อออออ”  กะหล่ำถอน
      ใจก่อนจะวิ่งเข้าห้องของตัวเองบ้าง

       

       

      ปั้นนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเริงรื่น หลังจากที่เธอถูกแม่ผู้แสนดีสั่งห้ามเล่นเน็ตจนกว่าจะสอบเสร็จ  แต่เพราะวันนี้สวรรค์เป็นใจ หรือนรกเปิดทางก็ไม่ทราบได้ วันนี้แม่ของปั้นไม่อยู่ ทำให้หญิงสาวนั่งเล่นเน็ตอย่างสบายอารมณ์

       

                    เจ้าชายตาตี่ Say : “ หวัดดีคร้าาาาบ ^^  กะหล่ำ ผุดลุกขึ้นเมื่อเห็น
      ข้อความบนหน้าจออันคุ่นเคย“ฮิ ฮิ น้องไอคิวมาแว้ววว"  กะหล่ำคิดอย่างดีใจ

       

                     เจ้าหญิงหูกาง Say: “หวัดดีจ้าาาาาาา  เจ้าชาย”  กะหล่ำพิมพ์ตอบกลับ
      ไปอย่างรวดเร็ว

       

                        เจ้าชายตาตี่ Say : “ฮิ ฮิ ทำไมพักนี้ไม่เจอพี่กะหล่ำเลยล่ะ ”

       

                เจ้าหญิงหูกาง Say : “หงาาาาา พักนี้ต้องอ่านหนังสือสอบอ่ะ T^T

       

                       เจ้าชายตาตี่ Say: “ จริงด้วยเนอะ พี่กะหล่ำจะจบแล้วนิ…….. ไม่อยากให้ 
      ไปเลยอ่ะ….T-T

       

                เจ้าหญิงหูกาง Say: “หง่ะ -_-^ ไอคิวอยากให้พี่ซ้ำม.6 เหรอ?”

       

                 เจ้าชายตาตี่ Say: “แฮะ แฮะ เปล่าฮะ >< ผมไม่ได้อยากให้พี่ซ้ำชั้นนะ”

       

                เจ้าหญิงหูกาง Say: “555+ รุแล้วน่าาาาาา  พี่ล้อเล่น ฮุ ฮุ”

       

                เจ้าชายตาตี่ Say: “ เอ้อ!!!! นี่พี่กะหล่ำ? ผมอยากถามไรหน่อย”

       

                เจ้าหญิงหูกาง Say: “มีไรหรือจ๊ะ? คุณน้องขาาาาา”

       

                เจ้าชายตาตี่ Say: “ วันอำลาพี่ ม.6 เขาจัดวันไหนเหรอ?”

       

      เจ้าหญิงหูกาง Say: “วันที่ 14 กุมภา ค้าาาาาาา  เฮ้อออออ ไหนบอก
      ไม่อยากให้เราไป ไหงงง ถามถึง วันอำลาซะแล้ว”

               

                เจ้าชายตาตี่ Say: “ปล่าาาาว  น้าาาาาา  ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นซักหน่อยนะ
       พี่กะหล่ำคิดมาก =_=

       

                เจ้าหญิงหูกาง Say: “เฮอะ เฮอะ พูดถึงวันอำลาแล้วเศร้า  พี่สาวคนนี้ไม่ได้ดอกไม้แหงม -_-

       

                เจ้าชายตาตี่ Say: “โธ่! อย่าคิดงั้นดิ  อย่างน้อยก็มีน้องชายคนนี้คนหนึ่งน้าาาาา  ลืมผมได้ไงอ่ะ T^T

       

                เจ้าหญิงหูกาง Say: “ ค้าาาา ขอบคุณนะ  โฮะ โฮะ อย่างน้อยก็มีคน
      ให้ดอกไม้แย้ววววว 555+” 

                 กะหล่ำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับบทสนทนาเมื่อครู่  พลันเสียงเครื่องยนต์รถ
      อันคุ้นเคย ก็กระทบหูกางๆของเธอ 

       

                “เฮ้ย!! นั้นมันเสียงรถแม่นี่หว่าาาา” กะหล่ำคิดได้ดังนั้น จึงรีบรัวแป้น
      พิมพ์ไม่ยั้ง หลังจากล่ำลาน้องสุดที่รักเรียบร้อยแล้วกะหล่ำก็ปิดเครื่องแล้วโกย
      อย่างไม่คิดชีวิตกลับไปอ่านหนังสือให้เรียบร้อย ก่อนที่ท่านแม่มาเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักที่ควรจะอ่านหนังสือเตรียมสอบมานั่งเล็น
      เน็ตสบายใจเฉิบอย่างนี้ได้

                หลังจากวันนั้นกะหล่ำก็ไม่กล้าเสนอหน้าไปเล่นเน็ตอีก เพราะโชคไม่
      อาจเข้าข้างคนเลวได้ตลอดไป ดังนั้นกะหล่ำจึงเลือกที่จะนั่งเคร่งเครียดอ่าน
      หนังสือ ธรรมดากะหล่ำก็ไม่ค่อยได้คุยกับน้องคิวอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ไม่ได้เล่น

      เน็ตยิ่งแล้วใหญ่  แต่นางสาวกะหล่ำก็ยังไม่ล่ะความพยายาม ฉะนั้นเมื่อถึงเวลา
      พักที่ไหร่ ไอ้กะหล่ำตัวดีเป็นต้องชวนเพื่อนเข้าห้องน้ำ  สาเหตุเพราะมันผ่าน
      ห้องที่น้องไอคิวเรียนอยู่ 

                “ไม่ได้คุยกัน ได้เห็นหน้าก็ยังดี” นั้นคือคำตอบของกะหล่ำเวลาเพื่อนๆ เริ่มเบื่อที่คุณกะหล่ำเธอเล่นผ่านห้องน้องไอคิววัน ล่ะสี่ห้ารอบ  ไม่รู้มันจะอะไรกันนักหนา

                  และแล้วช่วงเวลาอันแสนสุขมันก็ถึงวันสุดท้าย  วันที่นักเรียนม.6 ที่จะ
      ได้เรียนอยู่ที่แห่งนี้เป็นวันสุดท้าย  วัน..ที่ เพื่อนจะได้อยู่พร้อมหน้ากันเป็น
      ครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะต้องเดินทางตามความฝันของแต่ล่ะคน

                เป็นธรรมเนียมของโรงเรียนเมื่อถึงวันที่การเรียนการสอนสิ้นสุดจะมีงาน
      ที่น้องจะอำลารุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาจากที่แห่งนี้ โดยมีการกล่าวอำลาจาก
      รุ่นพี่ และกล่าวลาอวยพรรุ่นพี่จากรุ่นน้อง  ท้ายสุดก็จะเป็นการให้พี่ใหญ่เดิน
      อำลาน้องทุกคน โดยจะมีน้องยืนสองฝั่งถนน เหมือนการต้อนรับบุคคลสำคัญ
      ก็ไม่ปาน  ถ้าน้องคนไหนสนิทกับรุ่นพี่มากๆ ก็จะมีทั้งดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็น กุหลาบ ดอกบัว ดอกหน้าวัว (ไม่รู้น้องคิดยังไง)ดอกดาวเรือง ตลอดจนพวงมาลัยไหว้ศาลพระภูมิก็มี(ล่าสุดที่เห็นมีคนเอาอ้อยมาให้ด้วย) เอาเป็นว่า รักกันมาก
      สนิทกันมาก ก็เล่นเอาให้รุ่นพี่อายกันไปข้างนั้นแหละ

                กะหล่ำเดินตามผ่านน้องสองข้างทางอย่างเซ็งๆ  ก็จะไม่ให้เซ้งได้ยังไง
       มือสองข้างของปั้นยังไม่มีดอกไม้ซักดอก เพราะความที่ไม่ค่อยรู้จักน้องเท่าไหร่ บวกกับที่ภายนอกปั้นดูเหมือนเป็นคนหยิ่ง เลยไม่ค่อยสนิทกับรุ่นน้องคนไหนมากนัก  จะมีก็แต่น้องคิวที่คุยกันบ้างก็เฉพาะแต่ในเอ็มเอสเอ็มเท่านั้น

                เฮ้อออออออ  แต่คนที่เธอสนิทอยู่ไหนก็ไม่รู้นี่สิ กะหล่ำถอนหายใจอีก
      รอบก่อนที่จะเดินก้มหน้าก้มตาไม่สนใจใคร เพราะยังก็คงไม่มีน้องคนไหนให้
      ดอกไม่เธออยู่ดี

                “..หล่ำ  พี่กะหล่ำ  พี่กะหล่ำคร้าบบบบ” เสียงเรียกที่ตอนแรกเหมือนได้
      ยินแว่วๆ แต่ตอนนี้กลับได้ยินเต็มหู พร้อมกับมีมือที่ไหนไม่รู้มาดังกะหล่ำเอา
      ไว้ ก่อนที่คุณเธอจะเดินหาเศษตังค์ต่อ

                “อ๊ะ!!ฮะ!!” กะหล่ำหันหน้าเลิ่กลั่กมองคนที่รั้งการหาเศษเงินของเธอ 
      และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อคนที่ดึงแขนเธอไว้ คือ…. น้องไอคิว
      !!!

                “ใจคอจะไม่สนใจน้องนุ่งเลยหรือไงฮึ” ไอคิวเอ่ยอย่างตัดพ้อหน่อยๆ
      เมื่อพี่สาวตัวดีเล่นเดินไม่สนใจใครเลยซักนิด  ทั้งๆที่เขาอุตส่าห์เรียกพี่สาวแล้ว
      แท้ๆ แต่คุณเธอกลับก้มหน้าก้มตาไม่สนใจเขาเสียนี่ เฮ้อ หน้าน้อยใจ…

                “แฮะ แฮะ พี่ขอโทษ..” กะหล่ำยิ้มแหย ยอมรับผิดโดยดี  ก็แหม…ก็ใคร
      มันจะไปคิดเล่าว่าจะมีใครมาเรียกเธอ นึกว่าเรียกคนอื่นซะอีก  เดินมาตั้งนาน ดอกไม้ซักดอกยังไม่มีเลยซักกะดอก เศร้า..

                “เอ้า!!!นี้ ตามสัญญาครับ พี่ชอบกุหลาบขาวใช่ป่ะ” ดอกกุหลาบสีขาวช่อ
      โต จัดแบบง่ายๆ แต่เก๋ด้วยริบบิ้นสีขาวคริบทอง ถูกยื่นมาตรงหน้าของกะหล่ำ
       สร้างความประหลาดใจระคนดีใจ จนเจ้าตัวก็ยังงงทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองช่อกุหลาบช่อโตที่คิวยื่นมาให้

                “นี่…..พี่กะหล่ำจะไม่รับดอกไม้ผมหน่อยเหรอ” น้ำเสียงคิวตัดพ้อจนกะหล่ำหน้าเจือน

                “อ๊ะ!! เปล่านะ… ทำไมพี่จะไม่รับดอกไม้ล่ะ” กะหล่ำหายจากอาการตก
      ใจรีบคว้าช่อกุหลาบขาวมากอดแนบอกอย่างห่วงแหน  “ดอกไม้สวยจะตาย เป็น
      ใครไม่รับ ขอบคุณนะ..” กะหล่ำอ่อมแอ่มขอบคุณเสียงเบา  แต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอเต็นแรงจนแทบจะออกมาเต้นบัลเล่ของนอกด้วยความลิงโลด  โอ้ววววน้องไอคิว
      ให้ดอกไม้ น้องไอคิว  ไอคิว ไอคิว ดอกไม้ ดอกไม้
      ในหัวกะหล่ำมีแต่คำสองคำ
      นี้วนไปเวียนมาไม่ขาดสาย  จนคุณเธอลืมนึกไปว่าแม่คุณกำลังขวางการจราจรของคนอื่นเป็นอย่างมาก  บรรดาเด็กม.6 นับร้อย ที่เดินตามหลังเธอมาชะโงกดูเธอ
      เป็นแถว บางคนก็สรรเสริญเธอไม่ขาดปากว่าเธอใดยายนี่มันถึงไม่เดินต่อสักที  ร้อนให้เฉาก๊วยที่ยืนต่อหลังกะหล่ำอยู่ต้องเตือนสติกะหล่ำด้วยการ..

       ผัวะ!!!! ไอ้กะหล่ำ หลีกซิเว้ยยยยย ขวางทางชาวบ้าน  เฉาก๊วยตบหัวกะหล่ำหนึ่งที พร้อมกับหันมาด่าให้กะหล่ำคืนสติ เฉาก๊ซยเอามือผลักใสไอ้
      กะหล่ำให้หลีกทางคนอื่นเขา ก่อนที่ตัวเองจะหอบดอกไม้ในมือนับร้อยของ
      ตัวเองเดินเลี่ยงปั้นไปในที่สุด  กะหล่ำมอมตามหลังเฉาก๊วยด้วยความหมั่นไส้
      แหมม ก็จะไม่ใช่หมั่นไส้มันได้ไงล่ะ ก็ไอ้เฉา๊ก๊วยมันเล่นได้ดอกไม้จากน้องๆ
      ในเครือของมันนับร้อยดอก นี่ไม่นับพวงมาลัยดาวเรืองที่อยู่บนคอจนทวมของ
      มันยังกะนักการเมืองหาเสียง ต่างกับเธอโดยสิ้นเชิง ที่ไม่ยังจะได้ดอกไม้ซักดอก

      เอ๊ะ!!!! ดอกไม้? ปั้นก้มมองช่อดอกไม้ในมือก่อนมองเลยไปที่เจ้าของช่อดอกไม้ที่ให้เธอเมื่อครู่ เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้  ไอคิว….. ปั้นเรียกชื่อเจ้าของดอก
      ไม้อีกครั้ง

      “ครับ ผมไอคิวฮะ …  แค่ไม่เจอกันไม่กี่วัน พี่กะหล่ำก็จะลืมผมซะแล้ว” คิวพูดหยอกกะหล่ำ แต่แล้วก็ตั้งกลั้นหัวเราะสุดความสามารถ โธ่… ก็พูดเสร็จพี่
      กะหล่ำเธอก็เล่นหน้าถอดสี แถมยังดูหน้า มึนๆ ยังไงพิกล  ตกลงคุณพี่เธออยู่
      ในอารมณ์ไหนกันแน่เนี่ย  
                
                  “แต่ เอ….. พี่กะหล่ำก็เจอผมทุกวันนี้หน่า ผ่านห้องผมทุกวันไม่น่าจะ
      ลืมผมนะ” ไอคิวลิ่วตามองกะหล่ำอย่างรู้ทัน ตอนนี้กะหล่ำเปลี่ยนจากหน้ามึน
      เป็นหน้าเขินแทน  ฮิ ฮิ เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจัง พี่กะหล่ำเนี่ย ไอคิวคิดในใจ

      “อ๊ะ!! พี่ไม่ได้ลืมไอคิวซะหน่อย แค่ตกใจจนอึ้งเท่านั้นเอง  ก็แหมมมม
      ใครมันจะไปนึกว่าจะได้ดอกไม้อย่างนี้เล่า ไอคิวก็เห็นว่าพี่ไม่ได้จากใครเลย”
      กะหล่ำก้มหน้าก้อมตาแก้ตัวอ่อมแอ่ม พยายามไม่สบนัยนต์ของไอคิว นัยน์ตา
      ที่ฉายแววระริกๆ ขี้เล่น  แปลกตาจากที่เธอเคยเห็นประจำ มันดูมีความหมาย
      จนเธอไม่กล้ามอง

      “ก็ผมให้พี่กะหล่ำแล้วนี่ฮะ เห็นไหมเต็มมือเลย ไม่เห็นต้องได้จากใคร
      เลย” ไอคิวยังคงยิ้มประกายสดใสไปให้กะหล่ำ  ชนิดที่ทำให้คุณกะหล่ำดีใจ
      จนละลายลงไปกองกับพื้นเสียให้ได้

      “แฮะ  แฮะ ขอบใจนะ พี่ขอบใจจริงๆ” กะหล่ำขอบคุณคิวด้วยจากใจจริง
      อย่างน้อยน้องเขาก็มีน้ำใจ ให้ดอกไม้เธอด้วย เอ๋
      !! ไม่ใช่สิ ต้องเรียอกว่าช่อก็ว่า
      ได้  แถมยังเป็นสีขาวเสียด้วย กุหลาบขาว ดอกไม้ที่เธอชอบที่สุด กะหล่ำนึก
      อย่างชอบใจ

                “ขอให้ใชคดีนะครับพี่กะหล่ำ” น้ำเสียงที่ส่อแววเศร้า ทำให้กะหล่ำต้อง
      หันไปสบตาไอคิวอีกครั้ง “เราน่าจะรู้จักกันให้เร็วกว่านี้เนอะ” คำพูดช่วงท้ายที่
      แผ่วเบาเหมือนกับเจ้าตัวอยากจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่าที่จะพูดให้เธอได้รับรู้ ทำให้กะหล่ำไม่อาจจะจับใจความได้

                “พี่ก็ขอไอคิวโชคดีเหมือนกันนะ  ไม่แน่น้าาาา เราอาจจะได้ไปเจอกัน
      ที่มหา
      ลัยก็ได้นะ” กะหล่ำพูดยิ้มๆ พยายามทำให้บรรยากาศการจากลามัน
      เศร้าน้อยที่สุด อย่างน้อยเธอก็ต้องการรอยยิ้มมากกว่ารอยน้ำตาอยู่ในความ
      ทรงจำของเธอ รอยยิ้มทะเล้นที่เธอไม่เคยเห็นจากน้องไอคิว มันจะเป็นความ
      ทรงจำที่ดีแก่เธอตลอดไป…

                ไอคิวยิ้มรับคำของกะหล่ำ “แต่หวังว่าผมจะได้คุยกับพี่กะหล่ำมากกว่านี้
      นะ ไม่ใช่แค่เห็นพี่กะหล่ำเดินผ่านอยู่แถวหน้าห้อง..” 

      ใช่!! เขาจะต้องไปเจอกับพี่ปั้นอีกให้ได้.. และมันจะไม่ใช่แค่รู้จักกันในฐานะพี่น้องด้วย คิวคิดอย่างหมาดมั่น

      “แฮะ แฮะ “ กะหล่ำหัวเราะอย่างเขิน  เธอรู้ว่าไอคิวน่ะรู้ว่าที่เธอผ่านหน้า
      ห้องเขาไม่ใช่แค่ความบังเอิญ แต่มันเป็นความตั้งใจของเธอเอง ไม่ใช่แค่เดิน
      ผ่านหน้าห้องเท่านั้น เธอยังเลือกที่นั่งที่โรงอาหารมุมเหมาะๆเพื่อมองเห็นน้อง
      เขาให้ชัดๆอีกด้วย ไหนจะแกล้งเป็นบังเอิญเดินผ่านน้องเขาทั้งๆกะไว้อยู่แล้ว
      ว่าน้องเขาต้องเดินไปทางไหน จดจำตารางเรียนของน้องเขาว่าต้องเรียนห้อง
      ไหนบ้าง จะได้เดินผ่านหน้าห้องน้องเขาถูก ทั้งที่บางทีเธออยู่คนละตึกน้องเขา
      ก็ตาม   แต่มันคงจะไม่มีอีกแล้วและ ต่อไปเธอคงจะไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นอีก
      แล้ว ไม่มี ไม่มีแล้ว กะหล่ำคิดอย่างเศร้าใจ  และเหมือนไอคิวจะรู้สึกถึงอาการมืดมนของคนข้างหน้าเป็นอย่างดี จึงต้องรีบเปลี่ยนบรรยากาศโดยเร็วที่สุด

      “เอาหน่า...คิวว่ายังไงๆ เราต้องได้เจอกันอีกชัวร์.. เชื่อผม ขออย่างเดียว
       พี่กะหล่ำอย่าเลิกติดต่อกันเป็นพอ  มีอะไรอย่าลืมส่งข่าวคราวมาบอกผมบ้างนะ”
      ไอคิวยิ้ม พร้อมกับตบไหล่กะหล่ำเบาๆเป็นการให้กำลังใจ (ความจริงเขาก็อยาก
      จะทำมากกว่านั้น ไม่อยากได้แค่แตะไหล่ อยากจับมือ อยากเข้าไปกอด แต่ถ้า
      ขืนทำอย่างนั้น มีหวังอาจารย์ฝ่ายปกครองต้องมาลากตัวเขาไปแน่  ต่อให้เขา
      เป็นนักเรียนดีเด่นก็เหอะ) และหวังว่าพี่กะหล่ำของเขาจะรอเขานะ รอวันที่ได้
      พบกัน

      “พี่ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น  หวังว่าเราคงได้พบกันอีก ยังไงก็ต้องเจอกัน
      อีกให้ได้” กะหล่ำยิ้มสวยมาให้ไอคิว นั้นเป็นเครื่องบอกกับไอคิวว่า กะหล่ำคน
      เดิมผู้ร่าเริงสดใจได้กลับมาแล้ว  “อ๊ะ
      !! พี่ต้องไปแล้วอ่ะ คนอื่นเขาไปกันหมด
      แล้วอ่ะ” กะหล่ำหันไปมองแถวของเพื่อนๆ ที่เดินห่างจากจุดที่เธอยืนอยู่ไปไกล และเธอก็ควรจะเดินตามเพื่อนไปได้แล้ว

                “บ๊ายบายนะ” กะหล่ำหันมาโบกมือลาไอคิวก่อนที่จะหันหลังเดินตาม
      เพื่อนๆของเธอไปในที่สุด

                ไอคิวมองตามกะหล่ำจนสุดสายตา ตอนนี้ เขาอาจเพียงได้แค่มองตาม
      หลังเธอไป ได้แต่ส่งยิ้มอำลาไปให้เธอเท่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นก็ตาม
      ถ้าหากว่าเขารู้ใจตัวเองให้เร็วกว่านี้ ทำตามใจตัวเองให้เร็วกว่านี้ วันนี้เขาคงไม่
      ต้องแค่มองตามหลังเธอไปอย่างนี้แน่นอน  เขาเพียงได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเขา
      จะได้เดินเข้าไปบอกพี่กะหล่ำ พี่สาวผู้แสนน่ารักของเขา ว่าเขารักเธอมากแค่
      ไหน   พี่จะรอผมได้ไหมครับ พี่สาวของผม…

                 ****************************************************************          

                 ****************************************************************          

      แฮะ แฮะ เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับเรื่องสั้นเรื่องที่สองของกะหล่ำ ไม่รู้จะมีคนถูกใจบ้างหรือเปล่า ^^อาจจะดูงงๆไปบ้าง หรือเปล่า ไม่แน่ใจอ่ะ เพราะ เรื่องนี้มันคิดได้ตอนวันอำลาพอดี พิธีเดียวกะในเรื่องนั้นแหละค่ะ เลยลองคิดกับเพื่อนๆประมาณว่าถ้ามีหนุ่มมาให้ดอกไม้ฉันบางก็ดีดิ (เพราะพอถึงวันนั้นจริงๆ ก็ไม่ยังกะมีหนุ่มไหนมาให้ เฮอะ เฮอะ) แต่มันก็เป็นวันอำลาที่สนุกมากๆเลยล่ะ (ไม่ยังเห็นใครร้องไห้สักกะคน ^^) แต่ยังไงก็ฝากเรื่องนี้กับเพื่อนนักอ่านด้วยนะคะ เม้นท์มาติชมกันบ้างนะคะ ยินดีน้อมรับฮะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×